โดยขากลับนี้กลับอีกเส้นทางนึงที่ไม่ได้ผ่าน Aso
แวะจุดพักระหว่างทาง
มีแสดงหุ่นเชิดด้วย แต่ตอนที่ไปถึงไม่มีรอบแสดง เลยอดดู
มาถึง Kumamoto บ่ายกว่าๆ
เลยเดินหาอะไรรองท้อง สุดท้ายตัดสินใจกินชาบู แต่เป็น"ชาบูเนื้อม้า"
บรรยากาศภายในร้าน |
เนื้อแดงอมชมพูสมกับที่ได้ชื่อเป็น Sakura meat จริงๆ |
กินเสร็จดูเวลายังมีเวลาเหลืออีกพอสมควรกว่าจะถึงเวลาคืนรถ
เลยมาเดินเล่นที่สวน Suisenji
แดดแรงมาก |
มีศาลเจ้าเล็กๆด้วย |
แวะถ่ายรูปกับ Kumamon ซะหน่อย อย่างกับพี่น้องกันเลย
Kumamon mascot ชื่อดังของ Kumamoto |
กลับมาถึง Hakata หลังจาก check in เอากระเป๋าฝากโรงแรม ก็ได้เวลาของสิ่งที่รอมานาน
อยากกิน ปลาปักเป้ามานานแล้ว เพิ่งจะมีโอกาสลองก็วันนี้แหละ
โดยปลาปักเป้าที่นิยมกินกันจะเป็น ปลาปักเป้าเสือ หรือ Tora Fugu
เดินมาถึงร้านเป้าหมายแล้ว
หน้าร้าน |
ถ้วยน้ำจิ้มยังเป็นรูปปลาปักเป้าเลย
โชจู สักหน่อย ทางร้านแนะนำมา
3คนหมดขวด 40ดีกรี ไหนจะเบียร์อีก กินเสร็จแทบเดินเซ |
ของกินเล่น
จานหลักมาแล้ว ปลาปักเป้าแล่บางๆ เวลากินให้ห่อคีบกับเครื่องเคียงแล้วจิ้มน้ำจิ้ม
ตรงกลางเป็นหนังปลาปักเป้า กรุบๆอร่อย
รสชาติ เนื้อสัมผัส Texture ดีทีเดียว ไม่คาว รสออกไปทางจืด
อันนี้อร่อยมากไข่ตุ๋นใส่หนังปลาปักเป้า พูดแล้วน้ำลายไหล
ปลาปักเป้าทอด รสเหมือนไก่ทอดมากๆ ไม่บอกไม่เห็นก้างไม่เห็นกระดูกนีแทบไม่รู้เลย
หม้อไฟปลาปักเป้า
น้ำซุปที่เหลือเนื้อที่เหลือเอาไปทำเป็นข้าวต้ม อร่อย
เมนูเสริม ปลาหมึก สดมากๆเม็ดสีที่ตัวปลาหมึกยังทำงานอยู่เลย
ส่วนที่กินเหลือก็เอาไปผัด เหมาะเป็นกับแกล้มมากๆ
ความรู้สึกกับการกินปักเป้าครั้งแรก ก็อร่อยอยู่แต่ก็ไม่ได้อร่อยพิเศษ
เนื้อรสชาติคล้ายๆไก่ ค่อนข้างจืดมาก ใครกินรสจัดคงไม่ชอบ
ข้อดีคือไม่คาว ใครไม่ชอบกลิ่นคาวปลากินได้สบายๆแน่นอน
กินแบบปลาดิบ กรุบกรับ อร่อย เข้ากับเครื่องเคียง กินสุกนี่แทบไม่ต่างจากไก่ กินไก่ถูกกว่า
ถ้าถามว่าถ้ามีโอกาสจะกินอีกไหม บอกเลยว่ากินแน่นอน แต่ไม่ถึงขนาดที่ต้องไปขวนขวายหาทางกิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น