ก่อนหน้านี้คุณพ่อก็ไม่ยอมทำ Passport ซะที จนวันนึงยอมไปทำ
เลยเป็นที่ของทริปที่ค่อนข้างฉุกละหุก คือปีนี้ไป ญี่ปุ่นมา2ครั้งแล้ว แทบไม่มีงบแล้ว T^T
แต่ก็กลัวคุณพ่อเปลี่ยนใจ ไหนๆก็อุตส่าห์ตะล่อมได้แล้ว
คุณพ่อก็70กว่าแล้ว แถมไม่ได้ชอบอาหารญี่ปุ่นเท่าไหร่ ก็เลยว่าพามาลองดูแล้วกัน สัก3คืนก็พอ
เกิดมาป่วยอยู่ญี่ปุ่นจะลำบากด้วย
แผนก็มีแค่ ให้ได้นั่ง Shinkansen, แช่ Onsen, กินอาหารแบบ Kaiseki
คิดไปคิดมาพามา คิวชูแล้วกันมี Pass แบบ 3วัน ได้ครบตามเป้าหมาย
เกือบจะกดจอง Jet Star แล้ว
มัวแต่ลังเล การบินไทยออกโปรมาพอดี โชคดีที่ยังไม่ได้ไปจอง Jet Star
วันแรกถึงสนามบิน Fukuoka
เอาของไปฝากโรงแรมแล้วก็ขึ้น Shinkansen ไป Kumamoto
มาถึงก็เจอเจ้า Kumamon เลย
สถานี Kumamoto
รถราง มีทั้งขบวนใหม่เก่าปนกัน ขบวนนี้ใหม่เชียว นานๆจะผ่านมาให้เห็นสักคัน
แต่วันนี้ไม่ได้ขึ้นรถรางจะขึ้นรถบัสแทน
คันนี้หล่ะ วิ่งไปลงที่ Sakura no baba josaien จากที่นั่นจะมี shuttle bus รับส่งไปทางเข้าปราสาท ไม่ต้องเหนื่อยเดินขึ้นเนิน
Sakura no baba josaien เป็นศูนย์การค้า open air คล้ายๆกับพวก villa market
ด้านใน มีร้านอาหาร ร้านของที่ระลึก แต่งเป็นธีม เอโดะ
http://www.sakuranobaba-johsaien.jp/english/
เจอ Kumamon อีกแล้ว
นอกจากร้านค้าด้านในก็จะมี Tourist information, Wakuwakuza History and culture experienc อย่างหลังนี่ไม่ต้องเข้าก็ได้ แทบไม่มีอะไรเลย เจ้าของ Blog เข้าไปเพราะเห็นบอกว่าเป็น History and culture experience แต่ด้านในมีจัดแสดงน้อยมากๆ ส่วนใหญ่เป็นวีดีทัศน์เล่าเรื่อง มีเวทีละครด้วย
ตอนที่ไปด้านหน้า Wakuwakuza มีการแสดงอยู่พอดี เข้าใจว่าเป้นทีมเดียวกับของ Wakuwakuza
กลางวันพาคุณพ่อกินอาหารพื้นเมืองที่ร้าน Washoku Sakura-michi ที่อยู่ในบริเวณของ Sakura no baba josaien
สั่งเซ็ต Dango jiru มาให้คุณพ่อ อารมณ์แกงไก่ใส่ก้อนแป้ง อร่อยดีอยู่
ของตัวเอง แน่นอนมา Kumamoto ก็ต้อง Basashi ซาชิมิเนื้อม้านั่นเอง
ไม่มีส่วนต่างๆของม้าให้เลือกหลากหลายเท่าร้าน Suganoya แต่รสชาติก็ใช้ได้ทีเดียว
เติมแรงแล้วก็ไปปราสาท Kumamoto
รูปถ่ายปราสาทเมื่อก่อน
วิวจากชั้นบนปราสาท
ลงจากปราสาทมา ก็เดินมาเข้าในส่วนของ Honmaru palace
เห็นป้าย Kumamon ที่ร้านตรงทางเข้าปราสาท ก็อดซื้อขนมกินตามไม่ได้
กินร้อนๆ อร่อยดี ถ้าพลาดกินตรงนี้ที่สถานีรถไฟก็มีขาย
กลับมา Fukuoka แวะเข้าที่พักล้างหน้าล้างตาหน่อย
พักที่ Clio Court Hotel ครั้งนี้ครั้งที่ 2แล้ว
ห้องใหญ่ราคาไม่แพง ติดสถานีรถไฟ ถ้าได้มาอีกก็คงพักที่นี่อีก
อาหารเช้า 1000 เยนต่อหัวเป็นบุฟเฟ่ต์ เหมาะสมราคาอยู่
เจอพนักงานคนไทยด้วย
ช่วงหน้าหนาวแอร์จะถูกล้อคปรับเย็นไม่ได้ มีแต่ลมร้อน ต้องรอให้ห้องค่อยๆเย็นเอง
ออกไป Kushida shrine กันต่อ ยังไม่เคยได้มากลางวันเลย
เกี้ยวที่ใช้ในงานเทศกาล
เดินไป Canal City กันต่อ เนื่องจากใกล้คริสมาสเลยมีการประดับไฟ สวยงาม
จริงๆเหตุหลักที่มา Canal City เพราะจะมากินร้าน Ichiran หรือที่คนไทยชอบเรียกว่าราเมนข้อสอบ เพราะจะมีใบรายการให้ติ้ก ว่าจะเอา มันไม่มัน เข้มไม่เข้ม เส้นแข้งเส้นอ่อน สาขานี้มีภาษาอังกฤษกำกับไม่ต้องห่วงว่าจะไม่รู้เรื่อง
เตรียมทำข้อสอบ
มาแล้ว อร่อยสมคำร่ำลือ
บริเวณสถานี JR Hakata ก็มีประดับไฟ มีร้านเป็นซุ้มๆ มีดนตรีเล่น เลยมาเดินดูสักหน่อย
ก่อนกลับไปนอน แวะมากิน เกี๊ยวซ่าร้านโปรด ร้าน Temujin
สาขาที่หาง่ายๆ ก็ที่ AMU plaza ชั้น10 ตรงสถานี Hakata นั่นแหละ
กินทุกครั้งที่มาคิวชู ครั้งแรกที่มาแวะมากิน 3วันติดเลย
เคล็ดลับความอร่อย อยู่ที่ไส้เกี๊ยวซ่า เพราะใช้เนื้อวัวทำ
รอบนี้ก็จัดไปคนเดียว 38ชิ้น
เขียน Blog ไปยังน้ำลายไหลเลยอยากกินอีก
อิ่มท้องหลับสบายพรุ่งนี้ไป Beppu
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น