จาก Entryที่แล้ว ได้นอนค้างที่ Nagoya
หลังจาก check out ก็รีบมาที่สถานีรถไฟแต่เช้า
วันนี้จะไป Takayama ครับ
ต้องนั่งรถไฟจากสถานี Nagoya ไปอีก 2 ชั่วโมงครึ่ง
ทาคายาม่า เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่า เกียวโตน้อย
เนื่องจากอยู่ไกล นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าเท่าเมืองใหญ่(บ้านนอกนี่เอง)
จากที่นี่สามารถต่อรถบัสไปยังหมู่บ้านมรดกโลก
นั่นคือ หมู่บ้าน ชิราคาว่า (เห็นว่าเป็นต้นแบบของหมู่บ้าน"ฮินามิซาว่า" ในเรื่อง"ฮิกุราชิ")
ตอนนั่งรถไฟวิวสวยมากครับ ทางรถไฟวิ่งเลียบแม่น้ำ ตัดแม่น้ำ เป็นช่วงๆ ทำให้ลืมเวลาไปเลย
ถึงสถานี ทาคายาม่า ลงจากรถมาก็พบ Gate ไม้ ใช้เจ้าหน้าที่เก็บตั๋ว
เข้าไปขอแผนที่ กัยถามเรื่องการไป หมู่บ้าน ชิราคาว่า ได้ความว่าค่ารถไปกลับ 4300 เยนต่อคน
เจ้าหน้าที่แนะนำให้เสร็จว่าควรใช้เวลา ประมาณ 2ชั่วโมงที่หมู่บ้าน รถไม่ต้องจองมาซื้อตั๋วตอนจะไปได้เลย (แต่สุดท้ายไม่ได้ล่ะ T*T)
บรรยากาศที่นี่เหมือนเมืองท่องเที่ยว ดูจังหวะชีวิตคนที่นี่จะช้าไปหมดไม่รีบเร่งแถม
เดินเจอฝรั่งเยอะกว่าที่คิด ไม่ค่อยเจอคนไทย
เดินเจอฝรั่งเยอะกว่าที่คิด ไม่ค่อยเจอคนไทย
วันนี้ตั้งใจจะมาพักผ่อนแบบสันหลังยาว จองโรงแรมที่มี Onsen ไว้
พักที่ Takayama Ouan เป็นโรงแรมที่มีความใหม่+เก่า เป็นตึกแบบโรงแรมสมัยใหม่ แต่ปูพื้นด้วยเสื่อทาทามิ
ต้องถอดรองเท้าเก็บ locker ที่ทางโรงแรมจัดไว้สำหรับแต่ละห้อง ก่อนจะเข้าตึก ตั้งแต่ก่อนจะขึ้นลิฟท์หรือเข้าห้องอาหารของโรงแรม
มีห้องน้ำในตัวด้วย ราคาก็ไม่แพง ตกคนละ 6,500 ต่อคน
มีออนเซ็น ที่ชั้น 13 ของโรงแรมมีทั้งแบบ แถมมีแบบกลางแจ้งด้วย อยากลองมานานแล้ว
ที่เที่ยวส่วนใหญ่เดินถึงกันได้หมด ยกเว้น Hida folk village ไกลสุดต้องนั่งรถบัส
Hida folk village
เป็นหมู่บ้านจำลองบ้านแบบดั้งเดิมในชนบท
อ่านประวัติดูได้ความว่า เนื่องจากมีการสร้างเขื่อน หมู่บ้านแบบชนบทส่วนใหญ่ต้องจมน้ำ
ทีนี้กลัวจะต้องเสียความรู้ดั้งเดิม เลยย้ายบ้านจริงๆ มาไว้ที่นี่ ทำเหมือนเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง
มีบ้านหลายแบบมาก เอาแบบกัสโซมาลงแล้วกัน ที่หมู่บ้าน ชิราคาว่า ก็เป็นแบบนี้
เพียงแต่ยังมีคนอาศัยอยู่จริงๆ ไม่ได้แค่โชว์แบบที่นี่
เพียงแต่ยังมีคนอาศัยอยู่จริงๆ ไม่ได้แค่โชว์แบบที่นี่
เห็นมีดแล้วนึกถึง เรนะ ในเรื่อง ฮิกุราชิ
วัด Hida kokubunji
วัดเก่าตั้งแต่สมัยนารา
ตุ้กตา ซารุโบโบะ (ตัวแดงที่แขวนอยู่) มีอยู่ทั่วเมืองเลย
ตามชื่อแปลว่า ลูกลิง แต่เดิมเป็นเครื่องลางที่แม่จะให้แก่ลูกสาว เพื่อการคลอดบุตร และชีวิตสมรสที่มีความสุข
นอกจากนี้ยังเชื่อว่าช่วยป้องกันเหตุร้ายด้วย
ตามชื่อแปลว่า ลูกลิง แต่เดิมเป็นเครื่องลางที่แม่จะให้แก่ลูกสาว เพื่อการคลอดบุตร และชีวิตสมรสที่มีความสุข
นอกจากนี้ยังเชื่อว่าช่วยป้องกันเหตุร้ายด้วย
พิพิธภัณฑ์ รถลาก Festival folk exhibition Hall จัดแสดงรถลากที่ใช้ในเทศกาล ที่จัดปีละ2ครั้ง
ภายใน โชว์ไว้ 7คันจาก 11คัน บางคันจะมีตุ้กตากลอยู่ด้านบนด้วย
โรงแสดงหุ่นกล Shishi Hall ดูแล้วนึกถึงเรื่องหุ่นเชิดสังหาร นอกจากหุ่นกลแล้วยังมีจัดแสดงหัวสิงห์แบบต่างๆ
จวนผู้ว่า
เป็นของเก่าสมัยเอโดะ ที่อนุรักษ์ไว้
ห้องทรมาณนักโทษ
รูปปั้นใครไม่รู้ถือ ดาบแสง ซะด้วย
ย่าน Sanmachi
เป็นย่านบ้านเก่าสมัยเอโดะ ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ ยังมีคนอาศัยอยู่ หลายหลังเป็นร้านขายของ
ตอนเย็นไม่พลาดกับ เนื้อ ฮิดะ
แค่ย่างจิ้มกับเกลือก็อร่อย อร่อยมากสั่งกันมา 2ชุด นี่ขนาดไม่ได้สั่งเนื้อพรีเมี่ยม grade (พรีเมี่ยมชุดละ 5400เยน ธรรมดา 2400เยน)
แค่ย่างจิ้มกับเกลือก็อร่อย อร่อยมากสั่งกันมา 2ชุด นี่ขนาดไม่ได้สั่งเนื้อพรีเมี่ยม grade (พรีเมี่ยมชุดละ 5400เยน ธรรมดา 2400เยน)
จานพิเศษ เป็นเนื้อวางบนใบไม้ ด้านล่างเนื้อจะเป็นมิโซะ
พอกินเสร็จ คุยกันเรื่องแผนพรุ่งนี้ เพื่อนมันบอกว่าพรุ่งนี้มันจะเดินเตร่แถวนี้เอง
ให้ไปเที่ยวหมู่บ้าน ชิราคาว่า ตามสบาย เพราะมันตังค์หมดไปกับค่าเนื้อมื้อนี้แล้ว
ไม่เป็นไร ไม่ไปก็ไม่ไป ความขี้เกียจเข้าครอบงำ ขอนอนตื่นสายๆสักวัน ไม่ไปหมู่บ้าน ชิราคาว่า
แต่....สุดท้ายยังคงตื่นเช้าอยู่ดี (ตื่นเช้าจนชิน T^T)
เลยมีโอกาสเดินไปดู ตลาดเช้า ที่ชาวบ้านเอาผักผลไม้มาขาย
เปิดตลาดขายของกันสักที
ประทับใจกับที่นี่มากๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากพักผ่อนชอบความสงบไม่เหมาะกับขาช้อป
ต้องมีครั้งที่สองแน่ยังไงก็จะหาโอกาสมาหน้าหนาวล่ะ
บ่ายนี้ก็จะเข้า Tokyo แล้ว เสียดายอยากอยู่ต่ออีกคืน