จาก entry ที่แล้วไปฮิเมจิ ใช้เวลาราวครึ่งวัน
ตอนช่วงบ่ายจะไปนาโงย่าครับ
ถึงนาโงย่าแวะเอาของเก็บโรงแรมที่อยู่ใกล้ๆสถานี
โรงแรมนี้มี Curfew ต้องกลับมาก่อน 0.30น. เพราะจะปิดประตูหน้า
แต่ไม่เป็นไร ยังไงก็ไม่กลับดึกขนาดนั้น
เพิ่งมารู้ตอนไปถึงว่า แถบสถานี Nagoya เป็นย่านกลางคืนด้วย โรงแรมที่พักก็ติดๆกับ love hotel
แถวๆทางเดินก็มีแต่ร้านนวดมั้ง(เห็นมีคำ massage) กลางคืนมีคนมายืนเรียกแขกเต็มไปหมด
ตอนเดินกลับโรงแรมเจอเดินมารุมล้อมให้เข้าร้าน พอเราพูดอังกฤษปั้บ เดินหนีจากเราปุ้บเลย ไม่มีมาตามตื้อเลย
ไปปราสาทนาโงย่าไม่ยากครับนั่ง รถไฟใต้ดินไป เดินต่ออีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว
รูปปั้น Kato Kiyomasa หนึ่งในขุนพลในยุคฌซนโกคุ คุมงานขนหินสร้างปราสาท
เข้าไปด้านในปราสาทจะพบรูปวาดท่านไปยืนบนหิน ออกคำสั่งแก่คนงาน
กำลังอยู่ระหว่างสร้างเรือนด้านหน้าอยู่
ไม่ค่อยมีมุมให้ถ่ายเลย
มีลิฟท์สำหรับผู้พิการ
ปลา โลมา ทอง (แบบจำลอง) สัญลักษ์ปราสาท ดูไม่ออกว่าเป็น โลมาเลย
ของจริงเห็นว่า เกล็ดเป็นทองแท้ เลยถูกขโมยเกล็ดไปหลายครั้ง
ลืมแก่กันหน่อย นี่ถ้ามีที่หยอดเหรียญให้มันโยกได้คงดี
ออกจากปราสาทมาก็ 5 โมงครึ่งแล้ว
ไหนๆก็มี JR Pass เลยไปกินมื้อเย็นที่ Shin-Yokohama ดีกว่า
ไปพิพิธภัณฑ์ราเมน เห็นทัวร์ชอบพาไป
นั่ง ชินคังเซน จากนาโงย่าไปประมาณ ชั่วโมงครึ่ง
ออกจากสถานีข้ามสะพานลอยเดินไปอีกหน่อย
มาม่าจากทั่วโลก
ร้านราเมนอยู่ชั้นใต้ดิน ทางเข้าทำเหมือนทางเข้าโรงอาบน้ำ
พอเข้ามาเหมือน ย้อนเวลา มาช่วงสงครามโลกครั้งที่2
ด้วยความที่ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น เลยสั่งอาหารพลาดจนได้ ไม่อร่อย สีสวย อย่างเดียว
ตอนแรกเห็นป้ายนึกว่าเมนูแนะนำ ซะอีก
มาเข้าใจทีหลังว่าท่าทางจะเป็นเมนู พิเศษ ฤดูร้อน เพราะเป็น ราเมนเย็น
จานนี้แหละ สีสวย ดูน่ากิน ร้านเบอร์ 9
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น